โบสถ์บาโรคแห่งฟิลิปปินส์
(Baroque
Churches of the Philippines)
กกกกกกกกโบสถ์บาโรคแห่งฟิลิปินส์
ประกอบด้วยโบสถ์โรมันคาทอลิก 4 แห่งที่สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 16-18 ในช่วงที่ฟิลิปปินส์เป็นอาณานิคมของสเปน
นอกจากจะแสดงถึงการเข้ามาของศาสนาคริสต์ในหมู่เกาะของฟิลิปปินส์แล้ว
ยังเป็นศูนย์กลางอำนาจในการปกครองอาณานิคมของสเปนด้วย
สถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของโบสถ์ไม่เพียงแค่สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวของสถาปัตยกรรมแบบสเปนหรือละตินอเมริกันกับสภาพ
แวดล้อมในท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังมีการผสมผสานศิลปลวดลายของจีนอีกเข้าไปอีกด้วย
แวดล้อมในท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังมีการผสมผสานศิลปลวดลายของจีนอีกเข้าไปอีกด้วย
![]() |
ภาพจาก : http://4.bp.blogspot.com/C5yT0UD_q_Q/U9z |
กกกกกกกกเนื่องจากความมีอิทธิพลของคริสตจักรในทางการเมือง
ทำให้คริสตจักรและรัฐถือเป็นหนึ่งเดียวกัน
คริสตจักรจึงกลายเป็นเป้าหมายของการโจมตีจากการปฏิวัติและการก่อกบฏในประเทศ
โบสถ์เหล่านี้จึงไม่ใช่มีเพียงสิ่งก่อสร้างที่ให้บริการทางศาสนาเท่านั้น
แต่ยังปรากฏสิ่งก่อสร้างในลักษณะป้อมปราการอยู่ด้วย เช่น
ในกรณีของโบสถ์ซานตามาเรีย
ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาและทำหน้าที่เป็นป้อมปราการในช่วงเวลาวิกฤต และโบสถ์
ไมอากาโอ ซึ่งทำหน้าที่ต้านทานการโจมตีเป็นครั้งคราวของชาวมุสลิมจากภาคใต้
นอกจากนี้ที่ตั้งของประเทศฟิลิปปินส์ยังตั้งอยู่บนแนวที่เรียกว่าวงแหวนแห่งไฟแปซิฟิก
ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีแนวโน้มเกิดแผ่นดินไหวได้บ่อย ๆ
การก่อสร้างจึงให้ความสำคัญกับรากฐานของโบสถ์ แม้บางแห่งจะรับความเสียหายจากแผ่นดินไหว
แต่ก็ได้สร้างขึ้นมาใหม่ทดแทน โบสถ์ทั้ง 4 แห่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมร่วมกันเมื่องปี
พ.ศ.2536
ที่ตั้ง
โบสถ์บาโรคแห่งฟิลิปปินส์
ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมของอินโดนีเซีย ประกอบด้วยโบสถ์ 4 แห่ง คือ
1.โบสถ์ซานออกัสติน
ในกรุงมะนิลา (San Agustin Church in Manila)
![]() |
ภาพจาก: http://3.bp.blogspot.com/EA5r13_X7AI/U90ArVuQCWI/ 2-San+Agustin+Manila+7.png
|
โบสถ์ซานออกัสตินในกรุงมะนิลา
เป็นโบสถ์คาทอลิกแห่งแรกที่สร้างขึ้นบนเกาะลูซอนในปี ค.ศ. 1571 (พ.ศ. 2114) ทันทีที่สเปนมีชัยเหนือมะนิลา เป็นโบสถ์ในลัทธิออกัสติน
(ลัทธิของคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิก ตั้งชื่อตามนักบุญออกัสตินแห่งฮิปโป ค.ศ. 354 - ค.ศ. 450) ซึ่งเป็นนิกายแรกที่ประกาศพระวจนะในประเทศฟิลิปปินส์
ตัวโบสถ์ในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นมาเป็นครั้งที่ 3 ในพื้นที่เดิม โบสถ์หลังแรกสร้างจากไม้ไผ่และใบจาก เสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ 1571 (พ.ศ. 2114) แต่ถูกทำลายด้วยไฟไหม้จากการรุกรานในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1574 (พ.ศ. 2117) โบสถ์หลังที่สองสร้างด้วยไม้อยู่บนพื้นที่เดิม และถูกทำลายลงในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ 1583 (พ.ศ. 2126) ด้วยไฟไหม้ โบสถ์หลังที่สามสร้างด้วยหิน การก่อสร้างเริ่มใน 1586 (พ.ศ. 2129) เสร็จสมบูรณ์เมื่อ 19 มกราคม ค.ศ.1607 (พ.ศ. 2150) ต่อมาโบสถ์แห่งนี้ได้กลายเป็นแม่แบบของโบสถ์ออกัสตินในประเทศฟิลิปปินส์
ตัวโบสถ์ในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นมาเป็นครั้งที่ 3 ในพื้นที่เดิม โบสถ์หลังแรกสร้างจากไม้ไผ่และใบจาก เสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ 1571 (พ.ศ. 2114) แต่ถูกทำลายด้วยไฟไหม้จากการรุกรานในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1574 (พ.ศ. 2117) โบสถ์หลังที่สองสร้างด้วยไม้อยู่บนพื้นที่เดิม และถูกทำลายลงในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ 1583 (พ.ศ. 2126) ด้วยไฟไหม้ โบสถ์หลังที่สามสร้างด้วยหิน การก่อสร้างเริ่มใน 1586 (พ.ศ. 2129) เสร็จสมบูรณ์เมื่อ 19 มกราคม ค.ศ.1607 (พ.ศ. 2150) ต่อมาโบสถ์แห่งนี้ได้กลายเป็นแม่แบบของโบสถ์ออกัสตินในประเทศฟิลิปปินส์
2. โบสถ์ซานตามาเรีย
ในซานตามาเรีย จังหวัดอิโลคอสซูร์ (Santa Maria Church in Ilocos Sur)
![]() |
ภาพจาก : http://1.bp.blogspot.com/-Gwxl9-Djq0w/U90Bz6HJI/AAAAyQ/rU6H9tfgA/s1600/02-StaMaria.png |
โบสถ์พระแม่แห่งอัสสัมชัน (The
Church of Our Lady of the Assumption) หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ โบสถ์ซานตามาเรีย
ในจังหวัดโลคอสซู ฟิลิปปินส์ สร้างตั้งขึ้นในปี 1765 ในที่ราบแคบ ๆ ระหว่างทะเลและเทือกเขากลางตอนของเกาะลูซอน
นับว่าเป็นโบสถ์ออกัสติเนียนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในฟิลิปปินส์
ทำหน้าที่เป็นฐานสำหรับคริสต์ศาสนิกชนที่อยู่ทางตอนเหนือของหมู่เกาะ
เป็นหนึ่งในสี่โบสถ์ยุคสเปน ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในชื่อ
โบสถ์บาโรคแห่งฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1993
โบสถ์ซานตามาเรีย นอกจากจะเป็นสิ่งที่ให้ระลึกถึงสี่ศตวรรษของการปกครองของสเปนในพื้นที่นี้แล้ว ยังสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาโรคที่โดดเด่น ตัวอาคารโบสถ์ก่ออิฐสีแดงโดดเด่น มีโครงสร้างที่ป้องกันการถล่มเนื่องจากแผ่นดินไหว ตัวโบสถ์สร้างขึ้นบนเนินเขา ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นจุดชมวิวและเป็นป้อมปราการเท่านั้น แต่เป็นศูนย์กลางทางศาสนาในยุคแรกของการบริหารภูมิภาค โดยคริสต์ศาสนาและทหารของสเปน
โบสถ์ซานตามาเรีย นอกจากจะเป็นสิ่งที่ให้ระลึกถึงสี่ศตวรรษของการปกครองของสเปนในพื้นที่นี้แล้ว ยังสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาโรคที่โดดเด่น ตัวอาคารโบสถ์ก่ออิฐสีแดงโดดเด่น มีโครงสร้างที่ป้องกันการถล่มเนื่องจากแผ่นดินไหว ตัวโบสถ์สร้างขึ้นบนเนินเขา ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นจุดชมวิวและเป็นป้อมปราการเท่านั้น แต่เป็นศูนย์กลางทางศาสนาในยุคแรกของการบริหารภูมิภาค โดยคริสต์ศาสนาและทหารของสเปน
3. โบสถ์ซานอกัสติน ในปาโออาย จังหวัดอิโลคอสนอร์เต (San
Agustin Church in Paoay, Ilocos Norte)
![]() |
ภาพจาก : http://3.bp.blogspot.com/-flSbBaqLF7c/U90BiAs1600/02-San+Agustin+Church+in+Paoay+4.png |
โบสถ์เซนต์ออกัสตินในปาโออาย
เป็นที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ โบสถ์ปาโออาย (Paoay Church) เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก สร้างจาก อิฐ หินปะการัง
และไม้แปรรูป สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ 1710 (พ.ศ. 2253) ตัวโบสถ์เป็นศิลปะผสมระหว่างแบบกอทิกและบาโรค
รวมทั้งได้รับอิทธิพลของศิลปะแบบจีนและชวา
เซนต์ออกัสตินในปาโออาย
มีชื่อเสียงจากสถาปัตยกรรมที่เน้นคานขนาดใหญ่ที่ด้านข้างและด้านหลังของอาคาร
มีหอระฆังสร้างขึ้นจากหินปะการัง ตั้งอยู่ห่างจากตัวโบสถ์
เพื่อความปลอดภัยหากเกิดแผ่นดินไหวหรือพายุไต้ฝุ่น
นอกจากนี้ยังใช้หอระฆังเป็นหอสังเกตการณ์ในช่วงการปฏิวัติฟิลิปปินส์ปี ค.ศ.1896 และระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวอาคารได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวในปี ค.ศ.1865 (พ.ศ. 2048) และปี ค.ศ.1885 (พ.ศ. 2448)
ในปี ค.ศ. 2000
(พ.ศ. 2543) มีการขุดพบหลักฐานทางโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์
เช่น โครงกระดูก และเครื่องปั้นดินเผาในบริเวณโบสถ์
ปัจจุบันได้นำไปแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
4. โบสถ์ซานโต โทมัส เดอวิลลานูวา ในไมอากาโอ จังหวัดอิโลอิโล (Sto.
Tomas de Villanueva Church in Miagao, Iloilo)
![]() |
ภาพจาก : http://2.bp.blogspot.com/-NPt4Sa8ftbA/U90CwbPv9rI/AAA/s1600/02-santo-tomas-church5.png |
โบสถ์ซานโต โทมัส เดอ วิลลานูวา
ในไมอากาโอ หรือ โบสถ์ไมอากาโอ เป็นสถานปฏิบัติของศริสตจักรโรมันคาทอลิก
นิกายออกัสติน สร้างขึ้นในปี ค.ศ 1731 (พ.ศ. 2274) เมืองและโบสถ์ได้ถูกทำลายลงโดยการรุกรานโจรสลัดมุสลิมในปี ค.ศ 1741 (พ.ศ. 2284) และในปี 1754 (พ.ศ. 2297)
ชึ่งเป็นเหตุให้เมืองถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในทำเลที่ปลอดภัยมากขึ้น
โบสถ์ใหม่ได้สร้างขึ้นในปี ค.ศ 1787-1797 (พ.ศ. 2330-2340)
กกกกกกกกโบสถ์ทั้ง 4 แห่งนี้ นอกจากจะแสดงถึงการเข้ามาของศาสนาคริสต์ในฟิลิปปินส์แล้ว ยังเป็นศูนย์กลางอำนาจของสเปนในภูมิภาคนี้ในสมัยนั้นอีกด้วย และได้รับการยกย่องในด้านสถาปัตยกรรมด้วยศิลปะแบบบารอคของยุโรปที่สร้างสรรค์ด้วยช่างชาวจีนและฟิลิปปินส์ โบสถ์ทั้ง 4 แห่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกรวมกันในปี พ.ศ.2536 นอกจากจะเป็นสถานที่ปฏิบัติภาระกิจทางศาสนาแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นป้อมปราการเพื่อต้านทานการรุกรานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตามโบสถ์ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากไฟไหม้สองครั้ง ในระหว่างการปฏิวัติกับสเปนในปี 1898 และในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง
กกกกกกกกโบสถ์ทั้ง 4 แห่งนี้ นอกจากจะแสดงถึงการเข้ามาของศาสนาคริสต์ในฟิลิปปินส์แล้ว ยังเป็นศูนย์กลางอำนาจของสเปนในภูมิภาคนี้ในสมัยนั้นอีกด้วย และได้รับการยกย่องในด้านสถาปัตยกรรมด้วยศิลปะแบบบารอคของยุโรปที่สร้างสรรค์ด้วยช่างชาวจีนและฟิลิปปินส์ โบสถ์ทั้ง 4 แห่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกรวมกันในปี พ.ศ.2536 นอกจากจะเป็นสถานที่ปฏิบัติภาระกิจทางศาสนาแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นป้อมปราการเพื่อต้านทานการรุกรานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตามโบสถ์ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากไฟไหม้สองครั้ง ในระหว่างการปฏิวัติกับสเปนในปี 1898 และในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง
อ้างอิง
ท่องเที่ยวสะดุดตา. (2557). โบสถ์บาโรคแห่งฟิลิปปินส์[ระบบออนไลน์]. จาก
http://www.sadoodta.com/content/โบสถ์บาโรคแห่งฟิลิปปินส์-baroque-churches-philippine สืบค้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2560
ณัฐวดี ช่วยพนัง. (2558). ฟิลิปปินส์[ระบบออนไลน์] . จาก https://sites.google.com/site/worldheritageinaseann/filippins สืบค้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2560
ASEAN50 2017. (2556). 6 มรดกโลกสำคัญในฟิลิปปินส์[ระบบออนไลน์]. จาก http://thailand.prd.go.th/1700/ewt/aseanthai/ewt_news.php?nid=5787&filename=index สืบค้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2560
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น